“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ดึงขึ้นแผนวิธีพลิกแพลงนำพาเศรษฐกิจพ้นวิกฤตวัวโพง เด่นครอบครองหมายเลขหนึ่ง CLMVT “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี แยกออกสัมภาษณ์เลิศกับ “โพสต์ทูเดย์” ในขณะแห่งยากลำบากสรรพสิ่งเศรษฐกิจไทย ขนมจากพิษวัวตัก-19 โดยส่องแสงทิวภาพยุทธศาสตร์กลเม็ด งานประคองและฝึกฝนเศรษฐกิจแยกออกระเหิดจากวัวโพงเพื่อกลับมาครอบครองเท้าหน้าเศรษฐกิจของภาคสาสมตรึกตรอง เผยปันออกเห็นภาพว่า เศรษฐกิจประเทศไทยมีรากฐานที่งดงาม ตั้งแต่รัฐบาลที่อีกทั้งดำรงฐานะกรุ๊ปพิทักษ์ความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้มาวางรากฐานเศรษฐกิจ ทั่วการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การก้าวหน้าโครงการอาณาเขตปรับปรุงดีเยี่ยมอาณาเขตบูรพา (อีอีซี) เป็นระเบียบที่มีความสำคัญในการรบภายใต้ ไทยแลนด์ 4.0แต่ปี 2562 แหลมทองริเริ่มมีสิทธิ์ความกระทบกระเทือนจากเศรษฐกิจพื้นแผ่นดินแปรผัน สงครามการค้า ด้วยกันหัวปี 2563 มาเจอะเจองานกระจัดกระจายของไวรัสงัวโพง-19 ซึ่งมีการคาดคะเนห้ามดุหากเปล่าสร้างอย่างไร จักมีมนุษย์ติดเชื้อครอบครองหมื่นมนุษย์ รัฐบาลจึ่งต้องกำหนดงัวตักปันออกสิ้นสุดแจ้นแรงกล้าภายใน 3 พระจันทร์ เพราะหยวนจอดกิจกรรมงานทางเศรษฐกิจทั้งมวล”ในเวลานั้นประกอบด้วยการหารือห้ามให้การหมอนำการเมือง และเศรษฐกิจ เพื่อที่จะยกมางัวตักแบ่งออกสิงสู่ แล้วจึงมีการเชิญแพทย์โย่งเข้ามารวมขบปัญหา”ใน วันนั้นรัฐบาลคาดคะเนแล้วตวาด ครั้นเปลี่ยนจากไป 3 พระจันทร์ ต้องก่อสร้างเสมอระหว่างการแพทย์กับเศรษฐกิจแบ่งออกคว้า จักแบ่งออกหลงเหลือคนติดโรคครอบครอง 0 ราย เกิดเรื่องทราม ในที่ด้านเศรษฐกิจคนจักเปล่ากิน ห้างร้านจำหน่ายไม่ได้ คนว่างงาน จักหนักใจสิ้นดังนี้ที่มีความสำคัญในการรบของรัฐบาล ครั้นจำกัดงัวโพงปันออกจับหลักได้ระยะหนึ่ง ก็ต้องสร้างเท่าการควบควบคุมการแพร่เชื้อสรรพสิ่งไวรัส กับดักการคลายเครียดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ นับว่ารัฐบาลทำได้เอาท์พุตคือว่าอยู่แห่งขณะ 3 ดวงจันทร์ ทำให้ผู้ติดเชื้อวัวโพงนิ่งสิงสู่ในชั้นเสื่อมถอยในขณะแห่งประกอบด้วยการแก้ไขปัญหางัววิด-19 ตั้งแต่เดือนหัวปี รัฐบาลได้ตระเตรียมออกลูก พระราชกำหนด 3 อย่าง เพื่อที่จะเขยี้ยวประชาชนกับธุรกิจ ดูแลตลาดเงินท้องตลาดราคาต้นทุนประกอบด้วย พ.ร.ก. กู้เงิน 1 เลี่ยนเลี่ยน เพื่อที่จะเยียวยาผู้แห่งครอบครองความกระทบกระเทือน ในที่ด้านสรรพสิ่งที่เก็บทำได้ลงคองดงามตามเป้าหมายแม้ว่าดั้งเดิมจะมีเรื่อง ในด้านของกองทุนประกันสังคมในเวลานี้เป็นส่วนใหญ่ไร้สมบัติครบถ้วนต่อจากนั้น จักเป็นเหตุให้กลางเมืองมีสตางค์ใช้คืนอย่างประหยัดได้ 3-4 พระจันทร์ ซึ่งการลงมือตรงนี้จบทรัพย์สมบัติจรต่อจากนั้น 4 แสนเลี่ยนบาทายิ่งไปกว่านี้ อีกต่างหากประกอบด้วย พระราชกำหนดซอฟท์โลนของธนาคารชาติ (ธนาคารแห่งประเทศไทย) 5 แสนเลี่ยนบาทา เอื้อเฟื้อผู้สร้างเอสเอ็มอี เพราะ ธปท. ช่างดึงแยกออกธนาคารพาณิชย์แห่งอัตราค่าดอกเบี้ย 0.01% ด้วยกันจรปล่อยอ่อนข้อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 2% ในซีกตรงนี้อีกต่างหากไปคว้าเลวเท่าที่ควร เพราะกิจธุระมากมายเข้าไปเปล่าถึง ตามที่กบิลธนาคารระยะเวลาประกอบด้วยวิกฤตจักตื่นการช่างเอากลับคืน สอดส่องดูแลผู้ใช้ที่ธนาคารถือใจ ทำให้ผลรวมสินเชื่อที่ปันออก ธปท. เร่งออกจากไปยังไม่ไหวตามเป้านิ่งเพราะว่า พ.ร.ก. ซื้อตราสารหนี้เอกชน 4 แสนล้านตีน ก็มีปัญหา ก็เพราะว่าตราสารต้องมีเงินเชื่อเรทติ้งแห่งระดับสถานที่ควรจะให้ทุน ซึ่งหุ้นส่วนเรทครหา้งมี 2 กองกลาง คือว่า กองกลาง ทริสเรทครหา้ง กับดักสถาบันจัดเกรดเครดิตฟิทช์ เพราะว่าประกอบด้วยบริษัทจำนวนมากที่ให้กำเนิดหุ้นกู้ แม้ว่าเปล่าเปลี่ยนงานเรทติ้ง กับโปร่งบริษัทไม่เคยเรทติ้ง ดังนี้ในช่วงฉับไว และประกอบด้วยเรทติ้งเท่า 2 กองกลาง กับเรทติ้งในที่สถานะที่เป็นอยู่วิกฤต ทำให้ติดขัดธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลางกับโย่งบางรายก็ไม่ไหวยอมรับความช่วยเหลือขนมจากมาตรการนี้จะอย่างไรก็ตาม ตอนนี้มุขคณะกรรมการควบคุมหลักทรัพย์กับท้องตลาดทรัพย์สิน (คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) ด้วยกัน ตลาดค้าหุ้นสถานที่ประเทศไทย (ตลทมันสมอง) ห่างเหินคิด เพื่อที่จะตั้งเงินทุนเพื่อจะลงมาสอดส่องตราสารหนี้ของกองกลางที่เข้าไปถึงตราสารหนี้ พ.ร.ก. ตราสารหนี้ 4 แสนล้านบาทาสาสมคิด บ่งบอกว่า จากมาตรการที่ออกมาเหลือบเห็นข้อด้อย การบรรเทาทุกข์อยู่คว้า 3 พระจันทร์ ผู้สร้างรายเล็กมากเข้าไม่จรดซอฟท์โลน ด้วยกันมาตรการตราสารหนี้สินสรรพสิ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจักเป็นเหตุให้มีงานถอดออกจากตำแหน่งธุรกิจดังนี้ ที่ผ่านมาได้มาแบ่งออกกระทรวงการคลัง ควานหามาตรการแบ่งออกผู้ประกอบการเปล่าให้ออกงาน โดยงานแบ่งออกมาตรการจูงในที่ข้างเงินภาษี ด้านงานผู้ผลิตเอสเอ็มอีรายเล็กแยกออกเข้าถึงสินเชื่อ จักใช้กองราคาซื้อสงทำให้ดีขึ้นเอสเอ็มอี ของ ที่ว่าการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางๆด้วยกันขนาดเล็ก(สสว.) แม้ว่าเงินตราเหลือหลอน้อย ก็จะตาขอจากเงินกู้อีก 5 หมื่นเลี่ยนบาทา เพื่อนำสมบัติจรช่วยแก้ไขเอสเอ็มอีเพราะว่าสถานที่ไม่ต้องผ่านกบิลแบงก์ เพราะว่าแลกเปลี่ยนกับดักการเปล่าถอดออกจากตำแหน่งธุรกิจ เสร็จยิงไต่วางแผนโดดเดี่ยวคว้าวิหคสองตัว เช่นไรก็ต้องสอดส่องผู้บริหารสถานที่อนุมัติ สมมติว่าไม่ทำเอสเอ็มอีจักล้มหมดด้วยกันคนจะว่างงานเดยิ่งนัก “อัศวิน”ลงพื้นที่อาณาเขตคลองสานสงเคราะห์ผู้ครอบครองผลกระทบงัวโพง-19 รัฐบาลอัดฉีดเม็ดเงินกระทั่ง3แสนเลี่ยน ทำให้รุ่งเรืองขึ้นแรงเศรษฐกิจโครงสร้างรองรับ สมตรึกตรอง บอกตวาด สิ่งสถานที่ต้องสืบต่อจรรวมความว่างานสอดส่องเศรษฐกิจเศษหนึ่งส่วนสองพรรษาพระขนอง ทั้งหมดรู้ตวาดโควิดเปล่าสิ้นสุดเพียงเท่านี้แน่นอน อีกทั้งมีงานกระจัดกระจายแห่งปะปนกัน ทั่วโลก ทำเอาทุกสิ่งยังกลับไม่ไปสู่สถานะที่เป็นอยู่ปกติได้กะร่องกะแร่งตามเดิม จึ่งกะตวาดงัววิหนาระพับเข้าเศรษฐกิจแหลมทองถึงสิ้นปีเป็นมั่นเป็นเหมาะ และปีหน้าอ่อยว่ากักคุมอีกที แล้วจึงจำเป็นจะต้องก่อสร้างธุรกิจ ก่อสร้างเงินรายได้ เปลี่ยนเงินกู้ยืม 4 แสนล้านพระบาท ขนมจากพ.ร.ก. 1 เลี่ยนล้านบาทา เน้นย้ำการพัฒนาเศรษฐกิจอาณาเขตปันออกเก่ง เน้นย้ำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งหมดแผนการที่เข้าใช้เงินตราจำเป็นจะต้องเน้นย้ำชุมชนแก่กล้า จำต้องก่อสร้างกิจธุระก่อสร้างรายได้ เพราะ จะมีพลังงานกลับมาจากไปเขตเต็มที่ จำเป็นจะต้องส่งเสริม 2-3 เดือนนี้แยกออกได้มาเต็มที่สุดโต่งนอกจากนี้ จำเป็นจะต้องเร่งซ่อมแซมการสัญจรภายในประเทศ แบ่งออกคนทรงพลังอำนาจจ่ายใช้คืนเงินตรา ปันออกที่เก็บไปตรึกตรองมาตรการโคจรครึ่งหนึ่งปีพระขนอง ก็เพราะว่ามาตรการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แห่งออกลูกเสร็จสงเคราะห์ผู้สร้าง โรงแรม ห้องอาหาร ผู้ผลิตพาเที่ยว สายการบิน เป็นหลัก ในส่วยของที่เก็บจำต้องดูด้านเป็นเหตุให้มนุษย์เดินเตร็ดเตร่ซึ่งมาตรการสัญจร และงานชดใช้เงินตรา 4 แสนล้านตีน ก่อสร้างเศรษฐกิจที่โล่งแจ้งโครงสร้างรองรับ ควรจะประคองเศรษฐกิจเศษหนึ่งส่วนสองชันษาปฤษฎางค์ไปได้มา แม้ว่าอีกต่างหากไม่พอ เพราะว่าการส่งออกของประเทศไทยเปล่าฟื้น เพราะว่าเศรษฐกิจพื้นแผ่นดินเปล่ายัีงเสีย การลงทุนต่างด้าวเป้าพรรษาตรงนี้คว้า 50-60% สรรพสิ่งพรรษาที่ผ่านมาที่ดอนถึง 8 แสนเลี่ยนตีน ก็นับว่าเข้มแข็งแล้วดังนั้นได้แบ่งออกหลักคณะกรรมการจรรโลงการลงทุน (บีโอไอ) ตวาดทั้งปวงแดนมีกรรมสิทธิ์ผลกระทบกระเทือนจากงัวตัก ปันออกใช้พรรษานี้ปีหน้าจัดแจง ครั้นงัวโพงจบ บีโอไอจำเป็นจะต้องเด้งออกมาเป็นนักษัตรเดือนสะดุดตา “ราวภาษิตประเทศจีนบอกตวาด ยุคโอกาสอันควรไม่ยกขึ้น ต้องครอบครองมังกรล่างห้วย เพื่อจะลับความเก่ง เมื่อจังหวะเข้าก็จำเป็นจะต้องตกเป็นราศีมังกรร่อนได้” ซึ่งชันษาตรงนี้ทั้งหมดด้าวครอบครองราศีมังกรดำน้ำทั้งนั้นทั้งนี้ปันออกบีโอไอจ้องภาพลงการลงทุนของไทยจำต้องครอบครองผู้นำ CLMVT กังวลใจโซ่อุปทานของโลก (Supply Chain) ของ CLMVT ดังนี้ บีโอไอ จำเป็นจะต้องเป็นดาวพระจันทร์เด่นในกลุ่ม CLMVT แบ่งออกคว้า ดำรงฐานะเท้าหน้าเป็นใจกลางหรือฮับสรรพสิ่งการลงทุน ที่นักลงทุนจักจำต้องวิ่งหนีข้อเสนอนี้ตาของบีฌโอไอไม่ไหว เหมือนผิวหนังข้อความ เดอะ ก็อดอยากปากแห้งฟาคุณร์ แห่งบอกตวาด “ดิฉันประกอบด้วยข้อแนะนำที่เจ้าเอ็งปิดประตูไม่ได้”สาสมคิดดู บ่งบอกดุ เมื่อมองคู่อริใน CLMVT แหลมทองไม่ได้ด้อยกระทั่งใครพ้น เพราะฉะนี้จำเป็นจะต้องมีจุดยืนสถานที่ชัดเจนว่าจักครอบครองฮับการลงทุนเรี่องอย่างไร ที่ผ่านมาแหลมทองมีการส่งเสริมการลงทุนแห่งอุตสาหกรรมกกการผลิตแล้ว ประกอบด้วยแผนอีอีซี แห่งต้องทำให้งดงามอย่าปันออกชะงักเนื่องด้วยสรรพสิ่งนวชาตสถานที่จำต้องจรรโลงการลงทุน คือว่าอุตสาหกรรมบริการ จำต้องทำให้เกิดปันออกได้มา ได้มาปันออกมุขสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนไปดูว่าอุตสาหกรรมการบริการอย่างไรแห่งคิดดูตวาดสำคัญ เพื่อจะมีมาตรการหว่านล้อมปันออกผู้ลงทุนเข้าออกทุนในประเทศประเทศไทย ทั่ว อุตสาหกรรมเกษตร ด้วยกันอาหาร การสัญจร การคมนาคม ด้วยกัน ไฟแนนเชียล เซอร์วิส สถานที่ครอบครองอุตสาหกรรมสถานที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนอีกต่างหากไม่เคยคิดดูแม่แบบที่เห็นชัดดุอังกฤษเด่นได้ ในขณะที่พ้นไปความสามารถแห่งการผลิตแล้ว ก็เพราะว่ามีไฟแนนเชียล เซอร์วิส เมืองไทยไม่มีอะไรจำนนประเทศสิงคโปร์ สถาบันการเงินเปล่าแพ้ ตลาดหลักทรัพย์กระจิดริดกระทั่งเปล่าเต็มแรง บีโอไอจำเป็นจะต้องดึงพวกกิจธุระการเงินตลาดราคาซื้อปันออกแข็งแรงที่ผ่านมาคว้า ตลทมันสมอง แยกออกประกอบด้วยการเกี่ยวตลาดหุ้นไทยฮ่องกง ตลาดค้าหุ้นเซินเจิ้น ซึ่งปราศจากประเทศใดแห่ง CLMVT ทำกันได้ยิ่งไปกว่านั้นแหลมทอง ซึ่งจำเป็นจะต้องประกอบด้วยการสานทาบจากที่ต้องหยุดขนมจากโคตัก ทว่าพร้อมก้าวหน้าประกบ จักเป็นเหตุให้ตลาดเงินตราตลาดราคาต้นทุนแหลมทองเปล่าเป็นเบี้ยล่างใคร ทำเอาแหลมทองครอบครองไฟแนนเชียล เซอร์วิส แห่งภมิอาณาเขตตรงนี้คว้าเกิน รวมหมด สหภาพพม่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เวียดนาม สามารถมาชดใช้บริการสิ่งของไทยคว้า ดุจสถานที่สหภาพยุโรปใช้คืนบริการไฟแนนเชียล เซอร์วิสสรรพสิ่งอังกฤษยิ่งไปกว่านี้ ข้อความการแพทย์ การเรียนรู้ สิ่งของไทยก็สะดุดตายิ่งนัก ต้องทำเอาดำรงฐานะฮับของถิ่น ปัจจุบันนี้ประกอบด้วยมนุษย์ระดับสะอาดแห่ง กัมพูชา เวียดนาม พม่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เต็มไปหมด สร้างเช่นไรแบ่งออกมาเรียนสถานที่เมืองไทยขณะเดียวกัน บีโอไอ ต้องไสสตาร์กรองัพแยกออกดำรงฐานะยูประเทศอุตสาหกรรมใหม่อร์น ไม่เคยประกอบด้วยงานเอ่ยปากกักคุมในที่นครแหลมทอง งานสร้างยูนิคอร์น เท่าเทียมการก่อสร้างเครื่องกลในที่ธุรกิจ ก่อสร้างจีดีพีของแดนในอนาคตข้างหน้า ซึ่งจำเป็นจะต้องผลัดกันระเบียบทะเบียนปันออกชาวต่างชาติสถานที่มีความรู้ความสามารถเข้าลงมือได้มา ไขปัญหากฎหมายแห่งการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนจำเป็นจะต้องหาญที่จะรายงานแห่งการปรับปรุง บีโอไอจำเป็นจะต้องครอบครองคนเริ่มต้นกับหน่วยงานแห่งข้องแวะต้องเข้ารวม”อิฉันประกอบด้วยไอเดียแม้ว่าอิฉันไม่กล้าตรึกตรอง ฉันเปล่าขยาดประเทศสิงคโปร์ ทว่าเวียดนามหัวหดไทย ที่จะเดินเส้นตรงนี้และติดสอยห้อยตามแหลมทองไม่ทันการ ดังนี้ได้มาแยกออกโจทย์กับบีโอไอ แบ่งออกใช้คืน 2 ปีนี้ก่อสร้างฐานดำรงฐานะแม่เหล็กติดใจการลงทุนเข้ามา และยุทธศาตร์สำคัญเต็มที่ลงความว่าการเชื่อมโยงระหว่างวงกลมต่างๆ แห่งเข้ามาแหลมทอง รวมหมดงานเชื่อมฮ่องกง เซินเจิ้น เมืองปักกิ่ง เซียงไฮ้ สมมติว่าทำได้ลงคอจบพ้น ทั่วความตลาดเงินตราตลาด ตลาดทุน งานก่อสร้างลงทุนนวชาตๆ สมมติว่านักลงทุนมาอีอีซีได้ อิฉันไม่ต้องขยาดแดนไหนเลย เวียดนามติดตามไทยไม่ทัน” สมคิด กล่าวสมคิดดู จับใจความตวาด การส่งออกต้องประคับประคองกันจร รอคอยแยกออกตลาดโลกฟื้น เกิดเรื่องช่วยไม่ได้ ยกเว้นแหลมทองสมควรทรัพย์สมบัติแบ่งออกสมรรถประกวดได้ ซึ่งไม่ต้องบ่งบอกตวาดครอบครองหน้าที่ของใคร แต่ว่าผินกเขารู้จักรับผิดชอบพอที่จะเอื้อเฟื้อบ้านเมือง ระยะนี้ประธานครั้ง้งตรงนี้ รัฐบาลคว้าแปะทุกสิ่งทุกอย่างแยกออกเศรษฐกิจประเทศไทยพ้นไปพรรษาตรงนี้จากไปได้มา จากเงินตรา พรก.เงินกู้ยืม มีการเดินทางภายในประเทศ ยิ่งไปกว่านี้ ยังประกอบด้วยงบประมาณแผ่นดินสิ่งของพรรษา 2563 บากลงมาคว้า 8 หมื่นล้านพระบาท งบพรรษา 2564 ตัดลงมาได้ 4 หมื่นเลี่ยนตีน ร่วมหลังจากนั้น 1.2 แสนเลี่ยนบาทา ที่จะชดใช้ส่งเสริมเศรษฐกิจครึ่งพรรษาพระขนอง และทางสำนักงบประมาณบ่งบอกตวาดในที่ไตรมาส 4 สิ่งของชันษาตรงนี้จะหารายได้งบบัญชีแยกออกอีก 1-2 แสนเลี่ยนตีน เพื่อที่จะต้องแก้ไขรอบคู่ จำเป็นจะต้องแบ่งออกมนุษย์หนักใจแน่นอนไม่ไหวจับจ่ายใช้สอยเยียวยาเหมือนรอบเริ่มแรก ซึ่งรัฐบาลมุมานะคิดดูล่วงหน้าว่าจักทำเช่นไรไม่แบ่งออกกลางเมืองทุกข์ใจ”พอดิฉันพ้นงัววิด กับไปคว้าติดสอยห้อยตามระเบียบ เศรษฐกิจประเทศไทยจะกลับดำรงฐานะมังกรโผบินได้มา” สาสมคิดดู กล่าว