เกษตรกรแหลมทองพูดอุทกภัยก่อภัตไทย-เวียดนามสนนราคาเด้ง

ศูนย์วิจัยเกษตรกรแหลมทอง คาดคะเนน้ำหลาก สร้างราคาอาหารไทย-เวียดนามพุ่ง ประกอบด้วยอินเดียเป็นช่องทางใหม่ ศูนย์กลางวิจัยเกษตรกรแหลมทอง พูดดรรชนีราคาอาหารพระจันทร์ตุลาคม 2554 มีแนวโน้มสูงขึ้น ต่อเนื่องนับตั้งแต่จันทรากรกฎาคม 2554 ขนมจากสิ่งของกระตุ้นสำคัญ คือว่า งานเกิดอุทกภัยหนสาหัสสากรรจ์ณภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย ด้วยกันเวียดนาม ซึ่งดำรงฐานะแดนผู้ส่งออกภัตอันดับ 1 ด้วยกัน 2 ของแหล่งหล้า จะอย่างไรก็ตาม ราคาภัตไม่ปรับพฤติกรรมทวีมากหลาย ดังที่การแห่งหนประเทศอินเดียกลับส่งออกภัตขาวด้วยกันข้าวเหนียว เพราะประมาณการแหวริเริ่มส่งออกตั้งแต่3 เดือน 4/54 เป็นเหตุให้ด้าวผู้บริโภคภัตหันมาจับจ่ายข้าวขนมจากอินเดียแห่งหนราคาไม่ผิดกระทั่งภัตไทยด้วยกันเวียดนาม เพื่อในจันทราตุลาคม 2554 นิ้วชี้สนนราคาอาหารที่เกษตรกรค้าได้ทวีไปแตะแห่งระดับ 193.50 หรือว่าทวีเปอร์เซ็นต์ 1.6 พอเปรียบเทียบกับจันทรากันยายน(MoM) หรือว่าเพิ่มอัตราร้อยละ 0.9 พอเปรียบเทียบกับตอนพระจันทร์เดียวกันสรรพสิ่งปีก่อน(YoY) ด้วยเหตุที่ข้าวนาปีที่ท้องถิ่นอีสานทยอยคลอดไปสู่ท้องตลาด ซึ่งเนื้อที่สร้างไม่ไหวสารภาพความกระทบกระเทือนขนมจากปัญหาน้ำท่วม เป็นพิเศษเนื้อที่ดอน กับคุณภาพข้าวเข้าขั้นดีงาม ตามที่จำนวนน้ำเพียงพอ ประกอบกับดักงานริเริ่มทำงานมาตรการสารภาพจำนำอาหาร ซีกนิ้วชี้ราคาขายส่งเค้าหน้าโรงสี และดัชนีราคาขายส่งคลอดอีกทั้งมีแนวโน้มดำเกิงขึ้นสม่ำเสมอ เพราะนิ้วชี้ราคาขายส่งหน้าตาโรงสีข้าวที่ดวงเดือนตุลาคมสิงสู่ที่ชั้น 189.93 ทวีร้อยละ 0.3 ครั้นเทียบกับเดือนก่อนใบหน้า(MoM) หรือเพิ่มร้อยละ 10.9 พอเปรียบกับดวงเดือนเดียวกันของปีก่อน(YoY) ส่วนดรรชนีราคาขายส่งออกลูกภัตทั้งหมดประเภทของแหลมทองพอกพูนเจียรแห่งชั้น 184.75 ไม่ก็ทวีเปอร์เซ็นต์ 0.7 MoM ด้วยกันอัตราร้อยละ 10.6 YoY ด้วยเหตุที่ประดาโรงสีเร่งรวบภัตดองเข้าสต็อกที่ตอนผลิตภัณฑ์ข้าวนาปรังรอบ 2 ในพื้นที่ท้องถิ่นกลาง กับอาหารนาปีณท้องที่ตะวันออกเฉียงเหนือคลอดไปสู่ตลาด โดยชิงชัยกับโรงสีข้าวแห่งสารภาพแปะโป้งข้าว ตามที่แวดวงค้าอาหารเก็งแหวปริมาณผลิตผลภัตนาปีจะมีแนวโน้มลดลง จากปัญหาน้ำหลากตลอดทั่วเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจักส่งผลตีราคาภัตณระยะปลายปีมีแนวโน้มเพิ่ม พานพบเทวาลัยพระศิวะชนมพรรษาถือเอาร้อยพรรษาถูกซุกล่างกรังเม็ดทรายในประเทศอินเดีย “ภาษาซีพี” เร่งขับเคลื่อนแผนการปลูกน้ำ ปรางอ้ายจ๋อเวลา 4.0 ไขปัญหาอุทกภัยลำธารแห้ง ข้างดัชนีสนนราคาภัตส่งออกภัตขาว 5% ทั่วสิ่งของแหลมทองด้วยกันเวียดนามที่พระจันทร์ตุลาคม 2554 ทำให้เสมอทวีเป็น161.29 และ 174.00 พอกพูนอัตราร้อยละ 1.4 กับ 2.4 ครั้นเปรียบกับดักดวงเดือนกันยายน 2554 ตามที่ปัญหาน้ำหลากก่อสร้างข้อเสียหายมอบกับผลผลิตทั่วข้าวนาปรังรอบสองในพื้นที่ท้องถิ่นกลางๆ และผลผลิตภัตนาปีบางส่วนที่เนื้อที่อาณาเขตอีสาน อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นณจันทราตุลาคมริเริ่มประกอบด้วยอัตราที่เหนี่ยวรั้งลง ภายหลังที่ทำให้เรียบเพิ่มลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่พระจันทร์เดือนกรกฎาคม ดังที่ประเทศลูกค้าต่างประเทศหันมาซื้อข้าวจากอินเดียทำแทน ทำเอาคำสั่งจ่ายของประเทศไทยน้อยลง ทั้งๆ ที่เวียดนามรับคำสั่งซื้อครบไปจวบจนกระทั่งช่วง3 เดือน 1/55 ที่ระยะ 9 ดวงเดือนจำเดิมสิ่งของพรรษา 2554 นิ้วชี้ราคาข้าวของแหลมทองสั้นเข้าอัตราร้อยละ 0.8 ในขณะที่ดรรชนีราคาขายส่งคลอดเครื่องใช้เวียดนามเพิ่มถึงเปอร์เซ็นต์ 16.1 พอเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันสรรพสิ่งปีก่อน ชี้ให้เห็นดุสนนราคาภัตเวียดนามเพิ่มอย่างต่อเนื่องณช่วงที่ผ่านมาของชันษาตรงนี้ และเริ่มเคลื่อนเข้าจวนเจียนกับดักราคาส่งคลอดเครื่องใช้แหลมทองเติบโต โดยได้มาผลดีขนมจากงานแห่งหนประเทศผู้ซื้อหันมาจับจ่ายภัตจากเวียดนามแห่งหนมีประโยชน์ถูกกว่าไทย ทั้งนี้ แกนกลางวิจัยเกษตรกรไทย ประมาณการตวาดจำนวนการส่งออกข้าวของแหลมทองที่ตอนแห่งหนหลงเหลือของปี 2554 น่าสิงสู่ในระดับแบ่งคาดคะเน 0.56 ล้านตัน/จันทรา ซึ่งจะมีผลกระทบจ่ายปริมาณการส่งออกภัตทั้งปีสิงสู่ที่ระดับ 10.5 โล้นตัน ด้วยเหตุที่อีกทั้งจำเป็นต้องพบเห็นการชิงดีชิงเด่นทั่วขนมจากเวียดนามด้วยกันประเทศอินเดีย ทั้งๆ ที่สนนราคาภัตส่งออกที่ช่วงที่หลงเหลือสิ่งของพรรษา 2554 น่าจะปรับพฤติกรรมเพิ่ม เพราะผู้ส่งออกข้าวบอกล่วงหน้าดุ ข้างหลังน้ำลดสนนราคาข้าวขาว 100% เกเรรดบีสรรพสิ่งไทยควรจะดีดขึ้นไปแจะชั้น 850 ดอลลาร์อเมริกา/หนึ่งพันกิโลกรัม(กะ 25,500 บาท/หนึ่งพันกิโลกรัม) หรือเพิ่มร้อยละ 36.7 จากระยะปลายเดือนตุลาคม ทั้งที่ราคาภัตส่งออกสรรพสิ่งเวียดนามก็มีแนวโน้มทำให้เรียบเพิ่มเช่นกัน แต่ว่ากะตวาดคงจะทำให้เรียบขึ้นพางอัตราร้อยละ 2 แค่นั้น ดังที่ทางรัฐบาลเวียดนามจำกัดการทำให้เสมอขึ้นสิ่งของราคาขายส่งคลอดข้าว เพราะว่าเกรงผลกระทบกระเทือนประกบปัญหาภาวะเงินเฟ้อในประเทศ ซึ่งราคาปลีกข้าวสารเคลื่อนขึ้นติดสอยห้อยตามราคาขายส่ง กับราคาส่งออก ข้อเสนอแนะที่จะจำต้องติดตาม ตกว่า โจทย์น้ำหลากส่งผลจ่ายกสิกรในเนื้อที่ท้องถิ่นกลางต้องเปลี่ยนที่งานสร้างอาหารนาปีจรอีกอย่างน้อย 1-2 ดวงเดือน ด้วยกันรัฐบาลคงจะต้องตรวจสอบขยายมาตรการยอมรับจำนำอาหารนาปีออกลูกจรอีก 1-2 ดวงเดือนด้วย(ขนมจากแต่เดิมที่กำหนดจบจันทราเดือนกุมภาพันธ์) หมายรวมการพินิจมาตรการยอมรับจำนำข้าวเพื่อข้าวนาปรังที่จะคลอดไปสู่ท้องตลาดที่ช่วงกลางปี 2555 อีกด้วย ด้วยเหตุที่บอกล่วงหน้าแหวปริมาณการผลิตข้าวนาปรังที่ชันษา 2555 จักเพิ่มขนานใหญ่ จากงานปลูกชดเชยข้อเสียหายขนมจากโจทย์น้ำหลากที่ระยะสิ้นปี 2554 และการที่ราคาข้าวเข้าขั้นรุ่งเรืองยังครอบครองมูลเหตุจูงใจแจกชาวไร่ชาวนาทวีพื้นที่ปลูกข้าว นอกจากนี้ อีกต่างหากจำต้องแกะรอยผลิตผลข้าวของเวียดนามที่จะออกลูกไปสู่ท้องตลาดณระยะไตรมาส 3/54 (ผลผลิตคาดคะเนร้อยละ 30 สิ่งของผลิตผลภัตตลอดปี) ซึ่งมีผลกระทบทิศทางราคาภัตในช่วงหลงเหลือสิ่งของปี 2554 และตอนต้นปี 2555