เวียดนามชดใช้กฏหมายดูแลสื่อออนไลน์

เวียดนามดูแลสื่อออนไลน์ กักคุมแชร์กระจายข้อมูลข่าวสารสาธารณะเว้นข่าวสารเฉพาะตัวณตัวนำเข้าสังคมออนไลน์ ด้านหลายอำนาจล้อมต่อต้าน สำนักข่าวบีบีซี ขนมจากประเทศอังกฤษ ทูลว่า ทางราชการเวียดนามคว้าริเริ่มบังคับใช้ข้อบังคับควบคุมการชดใช้อินเทอร์เน็ต ที่กักคุมไม่แจกผู้ใช้โฆษณาชวนเชื่อ ไม่ก็พูดคุย เกี่ยวประกาศข้อมูลทั่วไป ยกเว้นข่าวเฉพาะตัว ในที่เว็บไซต์สังคมออนไลน์ อย่างเป็นทางการจากนั้นข้อบังคับดังกล่าว เจาะจงแหวกันเปล่าแจกเว็บแม่พิมพ์ หรือว่าเว็บไซต์เข้าผู้เข้าคนออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊ค และทวิตเโคนร์ แชร์เรียงความหรือไม่ก็ประกาศ ยกเว้นเสียแต่ว่าประกาศส่วนตัวขนาดนั้นแห่งหนทำได้ ในเวลาเดียวกันนี้อีกทั้งจำกัดด้วยตวาดข้อเขียนหรือไม่ก็สิ่งใดสถานที่ดำรงฐานะภัยประกบธีรภาพของประเทศก็จักถูกกักคุมเปล่าแบ่งออกมีการเผยกระจายด้วยด้วย “กฏหมายนวชาตเจาะจงใสเลยตวาด เว็บไซต์เข้าสังคมออนไลน์ อาทิเช่น ทวิตเโคนร์ ด้วยกันเฟซบุ๊ค น่าที่จะไม่ผิดใช้คืนเพื่อปริวรรตข่าวสารส่วนบุคคลขนาดนั้น” บอกข่าวสารจากสถานีวิทยุกระจายเสียงบีบีซี เจาะจง แหลมทองกำลังวังชาเสื่อมโทรม “อำนาจอธิปไตยปีกประกาศข่าวสารมาตงค์” ? ต้องการตัวนำถลกพื้นที่ ‘มนุชเล็กมากมนุชบางตา’ ก่อสร้างดวงทัดเทียม ลดความไม่ถูกกัน นอกจากนี้ กฎเกณฑ์ฉบับดังที่กล่าวมาแล้ว อีกต่างหากได้มากำหนดให้กองกลางสถานที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตขนมจากต่างชาติ นำเซอร์เวอร์เข้ามาก่อตั้งเก็บสิงสู่ภายในประเทศเวียดนามเช่นกัน ปัจจุบัน เทศบัญญัติดังที่กล่าวมาแล้วกำลังวังชาถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหมู่สิทธิมนุษยชน กับกองกลางสถานที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตจั้กๆ ด้วยเหตุที่สำเร็จบุกรุกอำนาจเสรีภาพณการแสดงออกและการละครเสียงโดยเสรี ซึ่งปัจจุบัน แต่ว่าข้อบังคับดังที่กล่าวมาแล้วจักเพิ่งจะมีผลบังคับใช้ แต่ก่อนหน้านี้คว้าประกอบด้วยนักไหวติงทางการเมืองและนักสิทธิมนุษยชนในประเทศถูกตัดสินสั่งสอนติดคุกไปหลังจากนั้นหลายมนุษย์ล่าสุด เมื่อเดือนที่แล้ว สถานทูตสหรัฐประจำเวียดนาม ได้มาออกลูกคำชี้แจงจัดแสดงความวิตกกังวลต่อเทศบัญญัติสรรพสิ่งกฏหมายอย่างดังที่กล่าวมาแล้วเช่นกัน ขณะที่ยุ่งเหยี่ยวข่าวไร้พรมแดน ให้กำเนิดคำอธิบาย ระบุว่า เทศบัญญัติจำกัดตัวนำออนไลน์จะทำให้ชาวเวียดนามสูญเสียความเป็นไทในการติดต่อสื่อสารข่าวในที่สาธารณะ ด้วยกันณอินเทอร์เน็ตอย่างยั่งยืน ดังนี้ เวียดนาม คือว่าแดนที่ประกอบด้วยความปกครองโดยประกอบด้วยก๊กลัทธิคอมมิวนิสต์เช่นพรรคลำพัง และเจ้าหน้าที่รัฐได้มาชดใช้ขบวนการควบคุมสื่อ