พงศาวดารชี้ให้เห็น โรคระบาดแห่งหนรุนแรง รวมทั้งโรค Covid-19 มีโอกาสสูงที่จะกลับระบาดใหม่ และคงจะก่อกำเนิดงานระบาดระลอกลำดับที่สองหรือว่าตรี เพราะระลอกข้างหลังโดยมากประกอบด้วยความร้ายกาจกว่าระลอกแต่ต้น และแห่งหนน่าเป็นห่วงกว่านั้นถือเอาว่า ผู้ชำนาญพิเศษด้านสาธารณสุขสั่งสอนดุ โรคระบาดแห่งแรงณสมัยเหตุการณ์ในอดีตตามสมัยนิยม หมายรวมความเจ็บป่วย Covid-19 ได้โอกาสดำเกิงที่จะกลับระบาดใหม่ ด้วยกันคงจะเกิดการระบาดระลอกลำดับที่สองหรือว่าตรี เพราะระลอกปฤษฎางค์มักประกอบด้วยความรุนแรงกระทั่งระลอกเริ่มแรกตัวอย่างแห่งหนชัดเจนตกว่า ไข้ไก่เขี่ยสเแกมที่เริ่มระบาดตอนต้นปี 1918 ระลอกแต่ต้นเอาชีวิตชาวโลกไปเหมือนกับ 2 ล้านคน ซึ่งจากประกาศปีกสาธารณสุขแห่งประกอบด้วยสิงสู่อย่างจำกัดจำเขี่ยในเวลานั้นผ่านพบดุตำแหน่งการจบชีวิตสิ่งของไข้หวัดสเปนเปล่าแตกต่างจากการเสียชีวิตขนมจากไข้หวัดประจำการฤดูเสียแต่ว่างานกระจัดกระจายระลอกที่สองซึ่งเริ่มณช่วงฤดูใบไม้ร่วงสรรพสิ่งพรรษา 1918 ทำให้หมู่ชนเสียชีวิตจรด 40 กล้อนคนวงในระยะเวลาเปล่ากี่จันทรา เพราะร่างกายจุดชนวนก็ตกว่า งานคลอดเดินเรือสรรพสิ่งทหารเรือแห่งโง่ตวาดตัวเองติดเชื้อเชื้อไวรัสขนมจากพอร์ตพลีมัธสิ่งของประเทศอังกฤษไปยังฝรั่งเศส สหรัฐ และทวีปอาฟริกาทิศตะวันตกงานกระจัดกระจายระลอกลำดับที่สองตรงนี้มีผลกระทบมอบไข้หวัดสเปนตกเป็นโรคระบาดที่แรงสุดขอบณพงศาวดารแม้ว่าไข้ไก่เขี่ยสเเจือจักเปล่าเหมือนกับความเจ็บป่วย Covid-19 แม้ว่าก็ครอบครองบทเรียนปันออกรัฐบาลได้มาแหวน่าจะซ้อมซักกับงานระบาดละลอกที่สอง มิเช่นนั้นิจักต้องประสบกับดักวาจาดุประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เกี่ยวกับ Covid-19 ตรงนั้นยังไม่มีทีท่าดุจักอวสานลงสะดวกๆ กับทุกวันนี้เกาหลีใต้แห่งชินมีสิทธิ์คำเยินยอตวาดควบคุมงานกระจัดกระจายเจริญ ก็ตกลงจากนั้นตวาดกำลังกายเจอะเจอกับการกระจัดกระจายละลอกที่สองประเทศเกาหลีใต้คลายเครียดมาตรการเว้นระยะไกลลิบทางสังคม (social distancing) ณระยะวันหยุดแถวเมื่อต้นเดือน พ.ค. ด้วยกันแทบจะหวนกลับไปดำเนินชีวิตคว้าต้นร่างเริ่มแรกหลังจากนั้น แม้ว่าช่วงปลายเดือนเดิมกลับพบพานผู้ติดเชื้อรายใหม่ทวีรายวัน วันละ 30-50 ราย โดยดำรงฐานะเคสติดโรคในประเทศส่วนมากกับมาจากสถานเริงรมย์ในเขตนครโซลแม้ว่าจดฉันนั้นประเทศเกาหลีใต้ประกันตวาดจำนวนผู้ติดโรครายวันทุกวันนี้อีกทั้งอยู่ณชั้นแห่งสามารถบริหารได้เป็นแห่งหนน่าสังเกตดุแดนในตระแปซิฟิกตะวันตกซึ่งมีประเทศเกาหลีใต้สิงสู่เช่นกันสามารถจำกัดงานกระจัดกระจายได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งที่มีพลเรือนถึง 1 แห่ง 4 สรรพสิ่งราษฎรแหล่งหล้า เสียแต่ว่าจวบจนกระทั่งวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา หวนกลับมีผู้ติดเชื้อณภูมิภาคตรงนี้เหมือน 2.4% สรรพสิ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลก กับประกอบด้วยส่วนสัดผู้เสียชีวิตเหมือน 1.6%สำนักข่าว NHK ของญี่ปุ่นสัมภาษณ์ แมทธิว กริฟฟิธ (Matthew Griffith) ขาทีมรับมือ Covid-19 ประจำการแปซิฟิกทิศประจิมของฮู ดุเพราะอะไรตระทวีปเอเชียซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ Covid-19 แล้วจึงไม่ใช่เช่นนั้นประเทศที่ประกอบด้วยงานกระจัดกระจายแรงตกขอบแขนิฟฟิธเริ่มจับตามอง Covid-19 ตั้งแต่ริเริ่มมีการระบาด และเล่าแหวเวลานี้อีกทั้งแจ้นเกินเลยที่จะจับใจความตวาดทำไมโปร่งแดนจึงกระจัดกระจายหนักหน่วง ใสแดนกลับมาเอาเรื่อง แต่ว่าก็ประกอบด้วยโปร่งวัตถุที่เห็นชัดคุ้นชิน อาทิการแกะรอยการระบาด มือิฟฟิธเล่าแหวแหล่ประเทศแห่งเอเชียรับมือการกระจายเชื้ออีกด้วยงานสืบเสาะผู้ติดเชื้อและคนใกล้ชิด ซึ่งดำรงฐานะวิธีที่เที่ยงตรงเป็นพิเศษในช่วงประเดิมของงานกระจัดกระจายซึ่งงานติดโรคเป็นส่วนใหญ่มาจากที่อื่น เพราะยกตัวอย่างงานบริหารของเวียดนามกับประเทศญี่ปุ่นแห่งหนสืบเสาะผู้ติดเชื้ออย่างเข้มงวด ก็เพราะว่ามากมายพบพานกลุ่มการระบาดเร็วก็อุดมรู้พื้นที่ลองดู “อัศวิน”ลงพื้นแห่งดินแดนคลองสานบรรเทาทุกข์ผู้มีสิทธิ์ผลกระทบวัววิด-19 กก.โรคติดต่อเห็นดีเห็นงามเสาคุมโคตัก พวกต่างชาติดั้นด้นมาแหลมทอง การสื่อสารชัดแจ๋วกริฟฟิธเล่าตวาดโปร่งแสงด้าวแห่งเอเชียแฟสิฟิก เช่น ญี่ปุ่นด้วยกันนิวซีแลนด์ ติดต่อมอบประชาชนตระหนักถึงการแพร่ระบาดได้ชัดเจนความประพฤติ ธรรมเนียม ด้วยกันโรคประจำตัวแขนิฟฟิธเล่าว่าความแตกต่างด้านวัฒนธรรมครอบครองปัจจัยหลัก ไม่ว่าจักเสร็จปราศรัย ไม่ก็การสวมหน้ากากอนามัยแห่งสถานที่สาธารณะ “พิธีกรรมผู้กระทำฝืดเคืองซึ่งพอกพูนความเสี่ยงที่น้ำเชื้อจักแพร่สะพัด เปรียบกับดักพิธีกรรมแห่งปกป้องที่ว่าง หรือไม่การตั้งกฎเกณฑ์การสวมกอดก่ายห้าม ไม่จูบแก้ม ไม่ประสานมือ ซึ่งทั้งเพนี้สนับสนุนดูแลรักษาการแพร่เชื้อเจียรณเนื้อตัว”บทเรียนจากอดีตมือิฟฟิธพูดแหว ประเทศแห่งหนชินเจอะเจอกับดักโรคระบาดชนิดซาร์ส เมอร์ส ทั้งมวลประกอบด้วยทางการสื่อสารแห่งหนแข็งแกร่งระหว่างชำนัญพิเศษทางการแพทย์กับดักรัฐบาลดังนั้นผิมีการระบาดระลอกลำดับที่สองในแถบเอเชียแปซิฟิค แดนเหล่านี้จักต้านทานได้มาอย่างมีประสิทธิภาพไม่ต่างขนมจากผลงานในละลอกแต่ต้นเสียแต่ว่าแห่งน่าเป็นห่วงเห็นจะเป็นสหรัฐ ด้วยเหตุที่งานกระจัดกระจายระลอกลำดับที่สองในสหรัฐคงจะมาและอุตุไข้หวัดใหญ่ทำให้การต้านทานยุ่งยากกับ#สลับซับซ้อนเพิ่มขึ้นอีกหลายทบตัว ก็เพราะว่าภูมิต้านทานสรรพสิ่งกลางเมืองคงจะลดน้อยลงแห่งระยะดังที่กล่าวมาแล้ว ขณะที่ตึกพยายาลก็ต้องจำแนกกำลังวังชาบุคลากรทางการแพทย์มาปกป้องไข้หวัดใหญ่นอกจากนี้ งานรวมกลุ่มของมนุชมากมายอย่างการคัดค้านก็อาจจะทำให้ตัวเลขผู้ติดโรคดีดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งชินเกิดขึ้นลงมาหลังจากนั้นณบุรีฟิลาเดลเฟียในปี 1918 ภายหลังประกอบด้วยการจ้าขบวนพาเขวรดขนาดใหญ่เพื่อจะฉลองงานสิ้นสุดสงครามโลกหนแห่ง 1 ทำเอาไข้หวัดสเปนกระจายเชื้อแห่งวงกว้างกับเวลานี้งานคัดค้านเพื่อจะหวังความชอบธรรมมอบมนุชวรรณะเช็ดก็บังเกิดแห่งมากมายประเทศของสหรัฐ รวมถึงประเทศฝรั่งเศสที่พึ่งจัดเทศกาลดุริยางค์ Fête de la Musique ครั้นรวิวารที่ผ่านมา เพราะว่าพ้นไปการใส่หน้ากากสถานีอนามัยไม่ก็เว้นระยะห่างด้านสังคมความวิตกกังวลเกี่ยวกับงานระบาดระลอกลำดับที่สองเป็นเหตุให้นักวิทยาศาสตร์จำลองโมเดลงานแพร่ระบาดในแหล่สถานการณ์ที่แตกต่างห้าม และพบพานบริหารแพร่เชื้อละลอกที่สองจะบริบูรณ์แรงเจริญผิมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด รวมทั้งผู้กระทำเหลามาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจซ้ำณพื้นที่แห่งหนอีกต่างหากผ่านพบการแพร่เชื้อแจ้นเกินไปแห่งพอหลบมุมการกระจัดกระจายระลอกลำดับที่สองหรือคงดำรงฐานะระลอกลำดับที่สามไม่ได้ รัฐบาลก็น่าจะยกสถานภาพระเบียบสาธารณสุขและการติดต่อสื่อสารทั้งระหว่างหน่วยงานปะปนกัน ด้วยกันเองด้วยกันกับดักกลางเมืองปันออกเก่ง เพื่อจะปกป้องชีวิตินทรีย์และความเป็นอยู่สรรพสิ่งกลางเมืองเพราะว่าไม่ต้องชดใช้มาตรการสุดขั้วชนิดการล็อกดาวน์อีกครั้ง