สเปน บอลโลก

สเปน บอลโลก

สเปน บอลโลก (สเปน: Selección Española de Fútbol) เป็นทีมฟุตบอลประจำประเทศสเปน อยู่ภายใต้การควบคุมและเป็นตัวแทนของราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปนในการแข่งขันระหว่างประเทศนัดต่าง ๆ ซึ่งจัดขึ้นโดยสหพันธ์สมาคมฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า)

ทีมชาติสเปนเป็นที่รู้จักกันในฉายา “La Furia Española” และฉายาซึ่งเป็นที่นิยมมากกว่าคือ “La Furia Roja” มาจากคำที่ชาวอิตาลีเป็นผู้คิดขึ้นและนำมาใช้เรียกทีมชาตินี้ในภาษาของตนว่า “Furia Rossa” คำว่า “ฟูเรีย” (ความดุเดือด, ความโมโหร้าย) มาจากรูปแบบการเล่นที่ค่อนข้างรุนแรงของนักฟุตบอลสเปนในการแข่งขันนัดต่าง ๆ ที่ทีมชาติสเปนเข้าร่วมเป็นครั้งแรกที่เมืองแอนต์เวิร์ป (ประเทศเบลเยียม) และต่อมาก็ถูกนำมาใช้เรียกเหตุการณ์การปล้นเมืองแอนต์เวิร์ปของสเปนในสงครามแปดสิบปี (ค.ศ. 1576) ซึ่งเป็นตำนานมืดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์การทหารของสเปนด้วย ส่วน “รอสซา” (สีแดง) มาจากสีของเสื้อทีม สำหรับในประเทศไทยนั้นทีมนี้มีฉายาว่า “กระทิงดุ”

สเปนเข้าร่วมฟุตบอลโลก 12 ครั้งและเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 1982 ในแอฟริกาใต้ ทีมชาติสเปนยังได้เล่นฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโรคัพ) แปดรายการ ที่สำคัญที่สุดคือยูโรปี 1964 ซึ่งพวกเขาคว้าแชมป์ระดับชาติด้วยการเอาชนะสหภาพโซเวียต 2-1 ในฝรั่งเศส ได้รับ สเปนจบอันดับที่ 2 หลังจากแพ้ให้กับเจ้าภาพ 2-0 และไม่ผ่านรอบรองชนะเลิศจนถึงยูโรคัพ 2008

นี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทีมชาติสเปนในกีฬาโอลิมปิก: สเปนเอาชนะโปแลนด์ 3-2 ในรอบชิงชนะเลิศที่แคมป์นูในโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1992 ที่บาร์เซโลนาเพื่อคว้าเหรียญทอง ออสเตรเลีย พ.ศ. 2543 สเปนได้เหรียญเงินโดยแพ้แคเมอรูนหลังดวลจุดโทษในรอบชิงชนะเลิศ[6] สเปนยังได้เหรียญเงินในโอลิมปิกแอนต์เวิร์ป เบลเยียมในปี พ.ศ. 2463 เช่นกัน

ประวัติการแข่งขัน สเปน บอลโลก

สเปน บอลโลก ทีมชาติสเปนก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2463 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นตัวแทนของสเปนในการแข่งขันฟุตบอลในกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 7 ที่เมืองแอนต์เวิร์ป ทีมชาติเบลเยียม-สเปนเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2463 กับเดนมาร์กที่บรัสเซลส์อารีน่า และทีมชาติสเปนที่สามารถเอาชนะเดนมาร์กได้ 1-0 จากประตูของ Patricio ได้รับเหรียญเงินเป็นครั้งแรกในกีฬาโอลิมปิกครั้งนั้น

การแข่งขันใหญ่ระหว่างปี ค.ศ. 1950-2004

  • 2 กรกฎาคม ค.ศ. 1950; รีโอเดจาเนโร (บราซิล): สเปน-อังกฤษ (1-0, ประตูจากซาร์รา) ฟุตบอลโลก ปี 1950
  • 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1950; รีโอเดจาเนโร (บราซิล): สเปน-สวีเดน (1-3) ฟุตบอลโลกปี 1950
  • 21 มิถุนายน ค.ศ. 1964; มาดริด: สเปน-สหภาพโซเวียต (2-1) รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร ปี 1964
  • 21 ธันวาคม ค.ศ. 1983; เซบิยา: สเปน-มอลตา (12-1) ในรอบคัดเลือกฟุตบอลยูโร ปี 1984
  • 27 มิถุนายน ค.ศ. 1984; ปารีส: สเปน-ฝรั่งเศส (0-2) รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร ปี 1984
  • 18 มิถุนายน ค.ศ. 1986; เกเรตาโร (เม็กซิโก): สเปน-เดนมาร์ก (5-1) ในฟุตบอลโลก ปี 1986
  • 8 สิงหาคม ค.ศ. 1992; บาร์เซโลนา: สเปน-โปแลนด์ (3-2) รอบชิงชนะเลิศในโอลิมปิกปี 1992
  • 30 กันยายน ค.ศ. 2000; ซิดนีย์: สเปน-แคเมอรูน (2-3) รอบชิงชนะเลิศในโอลิมปิกปี 2000
  • 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2004; มาดริด: สเปน-อังกฤษ (1-0) เป็นการลงสนามครั้งที่ 500 ของทีมชาติสเปน

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008

แม้จะมีผลงานเริ่มต้นที่ย่ำแย่ในรอบคัดเลือกซึ่งเริ่มขึ้นในปี 2549 สเปนก็สามารถผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มของยูโรในออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์ได้ ในช่วงเวลานี้ ผมมีความขัดแย้งกับผู้จัดการทีม หลุยส์ สื่ออารากอนและสเปน เรื่องแรกเกี่ยวข้องกับผลงานที่ตกต่ำเมื่อเร็วๆ นี้ และเรื่องที่สองเกี่ยวกับ “ข่าว” ของการปะทะกับอดีตกัปตันทีมชาติ ราอูล กอนซาเลซ

ในรอบแบ่งกลุ่ม สเปนอยู่ในกลุ่ม D และเล่นกับสวีเดน กรีซ และรัสเซีย โดยชนะ 4-1 ในนัดแรกที่พบกับรัสเซีย โดยได้ 3 ประตูจาก David Villa และอีก 1 ประตูจาก Se. Sk Fabregas ลูกยิงของ SWEDEN Fernando ทำให้สเปนชนะ 2-1 ตอร์เรสและวิลล่า และในการพบกันครั้งสุดท้ายกับแชมป์เก่ากรีซ สเปนก็ชนะ 1-2 โดยได้ประตูจากรูเบน เด ลา เรดและดานี่ กิซ่า

จ่าฝูงกลุ่ม สเปน ซึ่งชนะมาสามนัดติดจะเจอกับอิตาลีในรอบก่อนรองชนะเลิศ สเปนชนะจุดโทษ 4-2 หลังต่อเวลาพิเศษแต่การแข่งขันยังเสมอกัน 0-0 ผู้ทำประตูสูงสุดของสเปนในนัดนี้คือวิลลา, กาซอร์ลา, เซนนา และฟาเบรกาส

สเปนเล่นกับรัสเซียในรอบรองชนะเลิศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน ชนะ 3-0 จากประตูในครึ่งหลังของชาบี อาร์นันดัส, ดานี ควิซา และดาบิด ซิลวา ช่วยให้สเปนผ่านเข้าชิงชนะเลิศครั้งแรกในรอบ 24 ปี อย่างไรก็ตาม ทีมชาติสเปนประสบปัญหา อาการบาดเจ็บที่ต้นขาจากฟรีคิกและพลาดกองหน้าตัวหลักของวิลล่า

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน สเปนพบกับเยอรมนีและเอาชนะตุรกี 3-2 ในนัดนี้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ทำให้สเปนขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 33 การแข่งขันจบลงด้วยสกอร์ 1-0 และสเปนคว้าแชมป์เมเจอร์ได้อีกรายการหลังจากห่างหายไปนานถึง 44 ปี

ฟุตบอลโลก 2010

ในฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพ ก่อนการแข่งขันสเปนถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์ได้ แต่เมื่อได้แข่งนัดแรกแล้ว สเปนกลับเป็นฝ่ายพลิกล็อกแพ้สวิตเซอร์แลนด์ไป 0-1 แต่หลังจากนั้นสเปนก็ทำผลงานกระเตื้องขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งเข้าไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ

ในรอบชิงชนะเลิศ สเปนเป็นฝ่ายเอาชนะเนเธอร์แลนด์ ที่ชนะมาทุกรอบได้ ไป 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ หลังจากเสมอมาในเวลาปกติ 0-0 จากการยิงประตูของอันเดรส อีเนียสตา ในนาทีที่ 116 ทำให้สเปนได้ครองแชมป์โลกเป็นครั้งแรก และเป็นทีมจากทวีปยุโรปทีมแรกที่คว้าแชมป์โลกได้นอกทวีปของตนเอง และเป็นทีมแรกที่แพ้ก่อนในนัดแรกแต่พลิกกลับๅ/มาเป็นแชมป์ได้ในที่สุด

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012

ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 ที่โปแลนด์และยูเครนเป็นเจ้าภาพ สเปนในฐานะแชมป์เก่าสามารถป้องกันแชมป์เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันได้สำเร็จ โดยในรอบชิงชนะเลิศสามารถระเบิดฟอร์มถล่มอิตาลีไปอยางขาดลอยถึง 4-0

ฟุตบอลโลก 2014

ในฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ สเปนในฐานะแชมป์เก่าอยู่กลุ่ม B ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันกับ เนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นคู่ชิงชนะเลิศเมื่อคราวที่แล้ว, ชิลี และออสเตรเลีย ในนัดแรก สเปนเป็นฝ่ายแพ้เนเธอร์แลนด์ไปมากถึง 1-5 ซึ่งนับเป็นผลการแข่งขันที่สเปนแพ้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ทีมชาติอีกด้วย และในนัดถัดมา สเปนก็เป็นฝ่ายแพ้ต่อ ชิลี 0-2 ทำให้ตกรอบแรกไปทันที โดยไม่ต้องรอผลการแข่งขันนัดที่ 3 กับออสเตรเลีย อีกทั้งถือว่า สเปนเป็นทีมแชมป์เก่าที่ตกรอบแรกฟุตบอลโลกเป็นทีมที่ 4 ต่อจาก อิตาลี ในฟุตบอลโลก 1950, บราซิล ในฟุตบอลโลก 1966 และ ฝรั่งเศส ในฟุตบอลโลก 2002

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016

สเปน แชมป์เก่า คว้าชัยเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน พบกับ โครเอเชีย, สาธารณรัฐเช็ก และ ตุรกี ในกลุ่ม D และเป็นทีมเต็ง 3 ที่จะคว้าแชมป์ในครั้งนี้ ผลคือในรอบแรก สเปนอยู่อันดับสองของกลุ่มและผ่านเข้ารอบ 16 หรือ 2 หลังจากแพ้โครเอเชีย 2-1 ในนัดที่แล้ว แต่ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายหลังจากแพ้อิตาลีในนัดชิง ทำ. ที่ 2-0 หัวหน้าโค้ช Vicente del Bosque ประกาศลาออก สหพันธ์ฟุตบอลสเปนได้ประกาศแต่งตั้ง Julen Lopetegui ซึ่งเป็นผู้นำทีมชาติสเปน U-19 และ U-21 ในการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปเป็นหัวหน้าโค้ชคนใหม่